งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยพาร์กินสันมีความบกพร่องในการทำงานของไมโทคอนเดรียและโคเอ็นไซม์คิวเท็นในระดับต่ำ ยิ่งไปกว่านั้น การวิจัยในห้องปฏิบัติการได้แสดงให้เห็นว่า โคเอ็นไซม์คิวเท็น สามารถปกป้องสมองส่วนที่เสียหายจากโรคพาร์กินสันได้ การทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 ซึ่งเป็นการศึกษาแบบสุ่มขนาดใหญ่ที่มีกลุ่มควบคุม ติดตามผลการศึกษาก่อนหน้านี้ที่ทดสอบโคเอนไซม์คิวเท็นหลายขนาดในกลุ่มผู้ป่วยโรคพาร์กินสันระยะเริ่มต้น ปริมาณสูงสุด 1,200 มก. มีแนวโน้มดี ในช่วงระยะเวลา 16 เดือน ผู้ป่วยที่ได้รับยานี้พบว่าการทำงานของมอเตอร์ (การเคลื่อนไหว) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญน้อยกว่าผู้ป่วยรายอื่นและความสามารถในการดำเนินกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การให้อาหารหรือการแต่งตัว แต่นักวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ซึ่งรวมถึง Kompoliti ต่างระมัดระวังเกี่ยวกับผลการวิจัยของพวกเขา โดยอ้างถึงความจำเป็นในการทบทวนอย่างละเอียดมากขึ้นเพื่อยืนยันผลลัพธ์ ในการทดลองปัจจุบันซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติและสถาบันระบบประสาทและความผิดปกติและโรคหลอดเลือดสมองแห่งชาติ ผู้ป่วย 600 รายจะลงทะเบียนที่ศูนย์ 60 แห่งในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา มีการทดสอบโคเอ็นไซม์คิวเท็น 2 โดส คือ 1,200 มก. และ 2,400 มก. บรรจุในเวเฟอร์เคี้ยวรสถั่วเมเปิ้ลที่มีวิตามินอีด้วย ผู้เข้าร่วมการศึกษาจะได้รับการประเมินเป็นระยะๆ เป็นเวลากว่า 16 เดือนสำหรับอาการของโรคพาร์กินสัน รวมถึงอาการสั่น แขนขาและลำตัวแข็งเกร็ง การทรงตัวและการประสานงานที่บกพร่อง และการเคลื่อนไหวที่ช้าลง นอกจากนี้ยังจะได้รับการประเมินความสามารถในการทำกิจกรรมประจำวัน คุณภาพชีวิตโดยรวม และความจำเป็นในการรับประทานยาเพื่อบรรเทาอาการ